วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557

โรคเบาหวาน และอีก 5 โรค โดยคุณหมอ


LIFVEL อาหารเสริมผู้ป่วยเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงปกติ ป้องกันโรคแทรกซ้อนในระยะยาวได้อีกด้วย
Livitanutrics มีอาหารเสริมผู้ป่วยเบาหวาน คือ LIFVEL มีสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ลดสาเหตุโรคเบาหวานเพราะมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และโครเมียม พิโคลิเนตที่มีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานในปริมาณสูง
     ผลิตภัณฑ์ LIFVEL  ลิฟเวล    สามารถแก้ปัญหา โรคเบาหวานอย่างได้ผล
ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 แคปซูล ราคา 1,900 บาท
  
ดูข้อมูลที่   http://lifvelmir.blogspot.com
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ วีระชัย  ทองสา    โทร.084-6822645 , 085-0250423
ID Line : weerachaicoffee    
อีเมล์ : weerachai.coffee@hotmail.com

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เลซิติน (Lecithin) ใน LIFVEL ลิฟเวล

ในปัจจุบันมีการนำเลซิติน(lecithin) มาใช้ในทางการแพทย์ และนำมาผลิตเป็นอาหารเสริมซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากผู้ดูแลรักษาสุขภาพ เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษของเลซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหัวใจ ช่วยบำรุงสมองป้องกันภาวะความผิดปกติของระบบประสาท เสริมสร้างการทำงานของตับ และยังลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีอีกด้วย


            หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของเลซิตินมาบ้างแล้ว แต่อาจยังไม่ทราบว่าเลซิตินเป็นสารที่พบได้ทั่วไปในอาหารประเภทนมสด ชีส เนย ไข่ เนื้อวัว ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ น้ำมันพืช สมอง ตับ ไต ข้าว แป้ง ถั่วลิสง และแครอท ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารเสริมปัจจุบันนิยมใช้เลซิตินที่สกัดจากถั่วเหลือง มากกว่าไข่แดง เนื่องจากการประหยัดต้นทุนในการผลิตมากกว่า และเลซิตินที่สกัดได้จากถั่วเหลืองมีคุณภาพดีกว่าเนื่องจากมีกรดไขมันไม่ อิ่มตัวสูงกว่านั่นเอง
          เลซิตินเป็นสารธรรมชาติที่ประกอบด้วยฟอสโฟลิปิด (phospholipid) เช่นพวกฟอสฟาติดิลโคลีน (phosphatidylcholine) ฟอสฟาติดิลเอทาโนลามีน (phosphatidylethanolamine) และฟอสฟาติดิลไลโนซิทอล (phosphatidylinositol) กรดไขมันจำเป็นและโมเลกุลของวิตามินบี 2 ชนิด ได้แก่ อิโนซิทอล (Inosital) และโคลีน (Choline) รวมอยู่ด้วย


        ซึ่งโคลีนเป็นส่วนประกอบของสารสื่อประสาท (Neurotransmitter) ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าอะเซทธิลโคลีน (Acethyl Choline) เมื่อรับประทานเลซิตินเข้าไป ร่างกายจะสังเคราะห์สารสื่อประสาทขึ้นมาจากโคลีน ส่งผลให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น มีการเรียนรู้ดีขึ้น เกิดการสร้างความทรงจำ ช่วยลดอาการของโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ และความผิดปกติของการเคลื่อนไหว เช่น Parkinson’s disease ได้ และจากการศึกษาพบว่าเลซิตินเป็นแหล่งพลังงานของสมองให้กับผู้ที่อยู่ในสภาวะ ที่มีความเครียดสูงได้อย่างดีด้วยเช่นกัน สารโคลีนในเลซิตินยังช่วยให้เซลล์ตับมีการเผาผลาญไขมันได้อย่างปกติ ลดภาวะไขมันพอกตับ อันเป็นสาเหตุให้ตับอักเสบ และโรคตับแข็ง ช่วยให้ตับการดูดซึมวิตามินบีหนึ่งเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มการดูดซึมวิตามินเอในลำไส้อีกด้วย ดังนั้นผู้ที่ต้องการบำรุงตับหรือผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำจึงควรรับประทานเลซิติน
        นอกเหนือจากนี้ โคลีนในเลซิตินยังช่วยควบคุมปริมาณฮอร์โมนวาโซเพรสซิน (vasopressin) หรือแอนติไดยูเรติก ฮอร์โมน (antidiuretic hormone) ที่ช่วยขับปัสสาวะ ควบคุมความดันโลหิต และความเข้มข้นของสารต่างๆ ในกระแสเลือดได้อีกด้วย
        ประโยชน์ของเลซิติน ยังช่วยเพิ่มกลไกการสร้างน้ำดีจากโคเลสเตอรอล โดยจะไปช่วยลดอัตราการดูดกลับของน้ำดีในลำไส้เล็ก ด้วยการดึงเอาโคเลสเตอรอลในเลือดซึ่งเป็นองค์ประกอบในการสร้างน้ำดีมาใช้ เพิ่มขึ้น การที่เลซิตินสามารถดึงโคเลสเตอรอลในเลือดมาใช้ได้นั้น เนื่องจากเลซิตินมีคุณสมบัติเป็นอีมัลซิฟายเออร์ (emulsifier) คือสามารถทำให้โมเลกุลของไขมันมีขนาดเล็กลงจนรวมเป็นเนื้อเดียวกับน้ำได้ ร่างกายจึงดูดเอาโคเลสเตอรอลมาใช้ในการสร้างน้ำดีได้ ส่งผลให้โคเลสเตอรอลในเลือดลดปริมาณลง แต่หากมีปริมาณของเลซิตินน้อยเกินไป เกิดการตกตะกอนของโคเลสเตอรอลในถุงน้ำดี เกิดเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งพบได้บ่อยในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ที่มีภาวะอ้วนและมีบุตรหลายคน และที่ทราบกันดีกว่าหากมีปริมาณโคเลสเตอรอลในเลือดสูงจะทำให้เกิดการอุดตัน ของหลอดเลือด ดังนั้นการรับประทานเลซิตินจึงเป็นการลงความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคหลอด เลือดอุดตันและโรคหัวใจได้นั่นเอง

      จากรายงานทางการแพทย์และผลการ ทดลองทางวิทยาศาสตร์มากมายทำให้เราทราบว่าเลซิตินเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ และจำเป็นต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่ง การได้รับเลซิตินในปริมาณ 0.6-1 กรัมต่อวันจะช่วยให้การทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกายเป็นปกติ โดยไม่เกิดการตกค้างในร่างกายแต่อย่างใด สำหรับการเลือกรับประทานเลซิติน ควรเลือกที่มีฟอสฟาติดิลโคลีนในปริมาณสูง และเลือกเลซิตินที่สกัดจากถั่วเหลือง เพื่อให้ได้คุณประโยชน์ที่มากกว่า


    เลซิติน  126 mg มีอยู่ใน ผลิตภัณฑ์ LIFVEL  ลิฟเวล  
  
    ผลิตภัณฑ์ LIFVEL  ลิฟเวล    สามารถแก้ปัญหา โรคเบาหวานอย่างได้ผล
ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 แคปซูล ราคา 1,900 บาท
   ดูข้อมูลที่   http://lifvelmir.blogspot.com
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ วีระชัย  ทองสา    โทร.084-6822645 , 085-0250423 lifvel
ID Line : weerachaicoffee    

อีเมล์ : weerachai.coffee@hotmail.com



สารสกัดชาเขียว ใน LIFVEL ลิฟเวล

ชาเขียว(Greentea) ชาเขียวประกอบไปด้วยสาร Catechin Polyphenol โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปริมาณสาร Epigallocatechin Gallate (EGCG) ที่มีอยู่มากในตัวชา่ ปริมาณสาร Epigallocatechin Gallate (EGCG) เป็นสารต้านพิษ ต้านอนุมูลอิสระ และยับยั้งการเติบโตของเซลมะเร็ง 
ชาเขียวมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน รวมถึงสามารถป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ด้วย จากงานวิจัยพบว่า ดื่มชาเขียวทุกวันวันละประมาณ 4 แก้ว หรือมากกว่านั้น ช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ เพราะในชาเขียวมีสารแอนติออกซิแดนท์ โพลีฟีนอลซึ่งมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง สรรพคุณของชาเขียวอีกประการหนึ่ง คือช่วยลดน้ำหนัก จากการวิจัยยังพบอีกว่าสารคาเฟอีนและสารฝาดแคททิคิน(Catechin) ในชาเขียวทำให้เมตาบอลิซึมในร่างกายดีขึ้น เผาผลาญพลังงานได้มาก เป็นผลทำให้น้ำหนักตัวลดลง โดยที่ไม่มีผลกระทบต่ออัตราการเต้นของหัวใจ


ชาเขียว ได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณเป็นยาบำบัดมายาวนาน และยังสอดคล้องกับผลการวิจัย ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย โดยเฉพาะคุณสมบัติที่โดดเด่นของชาเขียวก็ คือ การช่วยล้างพิษออกจากร่างกายได้ลึกถึงระดับเซลล์ สรุปกลไกการทำงานของชาเขียวในการล้างพิษได้ดังนี้


1.ฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ของชาเขียวช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดแข็งตัว โรคหัวใจ ชะลอความชรา ลดขบวนการทำลายสารพันธุกรรมและยับยั้งการก่อมะเร็ง
2.ความจำเพาะเจาะจงในการกระตุ้นเอ็นไซม์ที่ทำหน้าที่ขจัดสารพิษในตับของชาเขียว ช่วยเพิ่มขบวนการขจัดสารพิษที่ได้รับจากอาหาร ยา และสารพิษอื่นๆ ได้ดีขึ้น และทำให้สุขภาพของตับดีขึ้นด้วย
3.ความสามารถในการยับยั้งการแบ่งตัวของเซลมะเร็งของชาเขียว ช่วยลดการเจริญเติบโตของเซลที่ผิดปกติ เนื้องอก และเซลมะเร็งได้
4.ชาเขียวช่วยให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้มีการพัฒนาการทำงานได้ดีขึ้น จึงลดการแทนที่จากแบคทีเรียที่ไม่ดีได้ ส่งผลให้การเผาผลาญอาหารได้ดีขึ้น
5.ช่วยลดคลอเรสเตอรอล LDL และเพิ่ม HDL ซึ่งเป็นไขมันที่ดี ชาเขียวจึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไขมันอุดตันหลอดเลือดได้ ซึ่งเป็นผลดีต่อหัวใจและสมอง
6.ชาเขียวสามารถยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นปาก ป้องกันฟันผุ และบรรเทาอาการเหงือกอักเสบ
7.ชาเขียวยังช่วยควบคุมน้ำหนักโดยออกฤทธิ์ร่วมกับ Caffeine ในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน ในระหว่างวันของร่างกายให้มากขึ้น

    สารสกัดชาเขียว 83 mg มีอยู่ใน ผลิตภัณฑ์ LIFVEL  ลิฟเวล 
   
    ผลิตภัณฑ์ LIFVEL  ลิฟเวล    สามารถแก้ปัญหา โรคเบาหวานอย่างได้ผล
ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 แคปซูล ราคา 1,900 บาท
   ดูข้อมูลที่   http://lifvelmir.blogspot.com
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ วีระชัย  ทองสา    โทร.084-6822645 , 085-0250423 lifvel
ID Line : weerachaicoffee    

อีเมล์ : weerachai.coffee@hotmail.com



โรคเบาหวาน (Diabetes) เเละ LIFVEL ลิฟเวล

โรคเบาหวาน (Diabetes) เเละ LIFVEL  ลิฟเวล    

โรคเบาหวาน คือ ปัสสาวะหวานนั้นเอง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะหวานเพราะร่างกายเราไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้หมด น้ำตาลที่เหลือก็จะผสมอยู่ในกระแสเลือดและถูกไตขับทิ้งออกจากร่างกายทางปัสสาวะ เป็นเหตุให้ปัสสาวะหวาน

        สาเหตุที่ทำให้น้ำตาลเกินในกระแสเลือด

·                      คนปกติ ตับอ่อนจะผลิตฮอร์โมนที่ชื่อ อินซูลิน ออกมา ซึ่งอินซูลินมีหน้าที่นำน้ำตาลออกไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆทั่วร่างกายเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน
·                      คนเป็นเบาหวาน ถ้าอินซูลินเกิดบกพร่องจะทำให้อินซูลินนำน้ำตาลไปให้เซลล์ต่างๆได้น้อย จึงเหลือน้ำตาลในกระแสเลือดมากเกินไปเป็นสาเหตุให้ปัสสาวะออกมาหวาน


          สาเหตุที่ทำให้อินซูลินไม่มีคุณภาพหรือมีปริมาณน้อย  

           1.   ตับอ่อนผลิตอินซูลินออกมาได้น้อยลง จึงทำให้มีอินซูลินน้อยกว่าปริมาณน้ำตาล น้ำตาลที่เหลือจะไปอยู่ในกระแสเลือดมากทำให้กลายเป็นเบาหวาน
                 ในคนอ้วน อินซูลินไม่สามารถพาน้ำตาลไปได้ เพราะเซลล์ไขมันจะผลิตฮอร์โมนบางตัวออกมารบกวนการทำงานของอินซูลิน ทำให้อินซูลินทำงานได้ไม่เต็มที่
           2.   สตรีมีครรภ์ ในสตรีบางคนเวลาตั้งครรภ์จะผลิตฮอร์โมนบางตัวออกมารบกวนการทำงานของอินซูลิน
           3.   อินซูลินบกพร่อง ซึ่งพบน้อยมากเกิดจากการผิดปกติของยีนต์

กลุ่มเสี่ยงเป็นเบาหวาน

       1.   มีญาติเป็นเบาหวาน
       2.   คนอ้วน น้ำหนักเกิน จะพบว่าคนอ้วนเป็นเบาหวานถึง 85 เปอร์เซ็นต์
       3.   คนที่มีประวัติว่าตั้งครรภ์แล้วแท้งบ่อยๆ สาเหตุคือ แม่เป็นเบาหวานแล้วไม่ทราบทำให้โอกาสแท้งได้
       4.   ผู้ที่เป็นแผลติดเชื้อบ่อย เช่น แผลที่มือ เท้า ปัสสาวะอักเสบ เป็นแผลหายยากหายช้าต้องรีบไปตรวจ

        

      วิธีตรวจเบาหวาน

       วิธีการตรวจหาค่าน้ำตาลในเลือดแบบคราวทำได้ง่าย ด้วยเครื่องตรวจเบาหวานโดยการเจอะเลือดบริเวณปลายนิ้วแค่หยดเดียวก็จะรู้ค่าของน้ำตาลในเลือดได้แล้ว สามารถทำเองได้ที่บ้าน

         ค่าของน้ำตาลในเลือด

        คนปกติ ก่อนทานอาหารต้องมีน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หลังอาหารต่ำกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
        คนที่เป็นเบาหวาน ค่าของน้ำตาลในเลือดจะมากกว่า 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ก่อนทานอาหาร และมากกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หลังจากทานอาหาร

        คนที่อยู่ระหว่างกลาง ผู้ที่อยู่ระหว่าง 100-125 ก่อนทานอาหาร และ 140-199 หลังทานอาหารนั้นอยู่ในกลุ่มเสี่ยงอาจเป็นหรือไม่เป็นก็ได้ต้องทำการตรวจไหม่ โดยการเจาะเลือดจากเส้นเลือดดำซึ่งจะก่อนทำการตรวจต้องอดอาหาร 6-8 ชั่วโมงในตอนกลางคืน แล้วมาเจอะเลือดในตอนเช้า หลังจากเจอะครั้งแรกจะต้องดื่มน้ำตาลกลูโคสทันที 1 แก้วให้หมดภายใน 5 นาที แล้วรออีก 2 ชั่วโมงจึงจะทำการเจอะเลือดอีกครั้งเพื่อดูความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังจากที่ร่างกายได้รับน้ำตาล ดูว่าฮอร์โมนอินซูลินจะยังมีคุณภาพสามารถพาน้ำตาลไปใช้ได้ดีขนาดใหน มีเหลือตกค้างหรือไม่
      เพื่อป้องกันการเกิดอาการเบื้องต้นของโรคเบาหวาน Livitanutrics ขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์ LIFVEL
Livitanutrics มีอาหารเสริมผู้ป่วยเบาหวาน คือ LIFVEL มีสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ลดสาเหตุโรคเบาหวานเพราะมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และโครเมียม พิโคลิเนตที่มีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานในปริมาณสูง

    ผลิตภัณฑ์ LIFVEL  ลิฟเวล    สามารถแก้ปัญหา โรคเบาหวานอย่างได้ผล
ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 แคปซูล ราคา 1,900 บาท
  
ดูข้อมูลที่   http://lifvelmir.blogspot.com
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ วีระชัย  ทองสา    โทร.084-6822645 , 085-0250423 lifvel
ID Line : weerachaicoffee    
อีเมล์ : weerachai.coffee@hotmail.com



อาการโรคเบาหวาน

อาการโรคเบาหวานเบื้องต้น

      1. เข้าห้องน้ำบ่อย

      เข้าห้องน้ำบ่อยมากขึ้น รู้สึกเหมือนต้องการปัสสาวะทั้งวัน ซึ่งการถ่ายปัสสาวะจะบ่อยขึ้นหากมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงเกินไป หากไม่มีฮอร์โมนอินซูลิน หรือมีแต่ทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ไตจะไม่สามารถกรองเอากลูโคสกลับเข้าไปในกระแสเลือดได้ จึงต้องพยายามดึงน้ำออกจากเลือดเพื่อเจือจางกลูโคส ทำให้กระเพาะปัสสาวะเต็มและทำให้คุณต้องไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ

     2. ความกระหายน้ำที่ไม่อาจบรรเทาได้

        หากคุณรู้สึกหิวน้ำจนต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ และรู้สึกว่าดื่มน้ำเท่าไหร่ก็ไม่พอ อาจเป็นสัญญาณเตือนของเบาหวานได้ โดยเฉพาะหากมีอาการปัสสาวะบ่อยร่วมด้วย เนื่องจากเมื่อร่างกายต้องขับน้ำออกจากกระแสเลือดเป็นปริมาณมากจนคุณต้องเข้าห้องน้ำบ่อย คุณจะมีภาวะขาดน้ำ และรู้สึกว่าจำเป็นต้องดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป

       3. น้ำหนักเลดโดยไม่ได้ตั้งใจ

           อาการนี้จะเด่นชัดในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ในเบาหวานชนิดที่ 1 ตับอ่อนจะหยุดผลิตอินซูลิน ซึ่งอาจเนื่องมาจากการที่มีเชื้อไวรัสไปทำลายเซลล์ตับอ่อน หรือเกิดจากการที่มีภาวะภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ทำให้ร่างกายโจมตีเซลล์ที่ผลิตอินซูลิน ร่างกายจะพยายามแสดงหาแหล่งพลังงานอื่นๆอย่างหนักเนื่องจากเซลล์ในร่างกายไม่ได้รับกลูโคส จนกระทั่งเริ่มสลายกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อไขมันเพื่อนำมาเป็นพลังงาน ในขณะที่เบาหวานชนิดที่ 2 อาการจะเริ่มเป็นมากขึ้นทีละน้อยเนื่องจากภาวะร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำหนักลดอย่างไม่ชัดเจนมากนัก

      4. อ่อนเพลียและเหนื่อยล้า

          สาเหตุเนื่องจากกลูโคสตัวดีอีกเช่นกัน ตามปกติกลูโคสที่ได้รับจากการกินอาหารจะดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด ซึ่งอินซูลินจะช่วยเคลื่อนย้ายกลูโคสเข้าไปในเซลล์ต่างๆของร่างกายอีกขั้นหนึ่ง เซลล์ก็จะนำกลูโคสนี้ไปผลิตพลังงานที่ใช้ในการดำรงชีวิต เมื่อไม่มีอินซูลิน หรือเซลล์ของร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินอีกต่อไป กลูโคสก็จะคงอยู่ในกระแสเลือดนอกเซลล์ เซลล์ร่างกายก็จะขาดแคลนพลังงาน ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยง่ายและร่างกายทรุดโทรมลงเรื่อยๆ

       5. มีอาการเหน็บชาหรือรู้สึกเหมือนเข็มทิ่มบริเวณมือ ขา หรือเท้า

          อาการนี้เรียกว่าเส้นประสาทอักเสบ ซึ่งจะเป็นมากขึ้นทีละน้อย เนื่องจากกลูโคสในกระแสเลือดที่สูงเกินไปตลอดเวลาจะทำให้ระบบประสาทเสียหาย รวมทั้งบริเวณแขนขาด้วย ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อาการมักจะค่อยเป็นค่อยไป จนคนหลายคนไม่รู้ตัวว่าตนเองมีอาการนี้ ดังนั้นระดับน้ำตาลในเลือดอาจสูงมาเป็นเวลาหลายปีก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัย ความเสียหายของเส้นประสาทจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว บ่อยครั้งที่อาการเส้นประสาทอักเสบสามารถดีขึ้นได้ด้วยการควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์เป้าหมายอย่างเคร่งครัด

      6. อาการและสัญญาณเตือนอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นได้

          อาการตามัว ผิวหนังแห้งหรือคัน มีการติดเชื้อบ่อยขึ้น บาดแผลที่ใช้เวลานานผิดปกติกว่าจะหาย ก็เป็นสัญญาณเตือนว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

            เมื่ออาการเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเบาหวาน ก็เป็นผลจากการที่มีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงเกินไป หากคุณสังเกตว่าตนเองมีอาการข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจ 

        การดูแลและรักษาเบาหวาน

        การวางแผนการบริโภคอาหารและตำหรับต่างๆในผู้ป่วยเบาหวาน การรักษาแบบธรรมชาติหรือตามหลักอายุรเวทที่จะช่วยให้ควบคุมโรคเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

      การดูแลตัวเอง

·         หลีกเลี่ยงการนอนกลางวัน
·         หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
·         ดูแลดวงตาให้มีสขภาพดี
·         ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
·         ดูแลเท้าเป็นพิเศษ

     ทำไมคนเป็นเบาหวานบางทีต้องตัดขา?

      โดยปกติเมื่อเป็นแผลและเกิดการติดเชื้อร่างกายนั้นจะมีเม็ดเลือดขาวคอยไปกำจัดแบคทีเรียที่เข้ามาในร่างกาย แต่เพราะเส้นเลือดที่ขาจะยาวกว่าเส้นเลือดที่แขน ทำให้โอกาสที่เส้นเลือดจะผิดปกติมีมากกว่า เมื่อเส้นเลือดตีบตันเลือดที่ไปเลี้ยงปลายขาก็จะน้อยลง ถ้าเกิดเป็นแผลแม้จะเป็นเพียงแผลเล็กๆแต่ถ้าเกิดการติดเชื้อจะทำให้แผลเน่าเร็วขึ้น เพราะเม็ดเลือดขาวไม่สามารถเข้าไปกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ จึงจำเป็นต้องตัดขาทิ้งเพื่อไม่ให้แผลเน่าลุกลาม

     ความรู้เกี่ยวกับเบาหวาน

·         คนผอมก็เป็นเบาหวานได้ เพราะคนๆนั้นไม่มีอินซูลีน เพราะตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลีนออกมาได้ แสดงว่ามีปัญหาเรื่องตับอ่อน
·         เบาหวานทำให้ตาบอดได้ เบาหวานทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงตาเกิดผิดปกติ เส้นเลือดแตกแล้วไปกระจายอยู่ในจอตาทำให้การเห็นภาพผิดปกติ
  
       เพื่อป้องกันการเกิดอาการเบื้องต้นของโรคเบาหวาน Livitanutrics ขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์ LIFVEL
        Livitanutrics มีอาหารเสริมผู้ป่วยเบาหวาน คือ LIFVEL มีสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ลดสาเหตุโรคเบาหวานเพราะมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และโครเมียม พิโคลิเนตที่มีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานในปริมาณสูง

    ผลิตภัณฑ์ LIFVEL  ลิฟเวล    สามารถแก้ปัญหา โรคเบาหวานอย่างได้ผล
ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 แคปซูล ราคา 1,900 บาท
    ดูข้อมูลที่   http://lifvelmir.blogspot.com
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ วีระชัย  ทองสา    โทร.084-6822645 , 085-0250423
ID Line : weerachaicoffee    
อีเมล์ : weerachai.coffee@hotmail.com





โรคเบาหวานขึ้นตา

การสูญเสียการมองเห็นในผู้ป่วยโรคเบาหวาน คือ ภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตา การที่ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เกิดความผิดปรกติของเส้นเลือดที่จอประสาทตา เกิดจอประสาทตาบวม เลือดออกในน้ำวุ้นตา จอประสาทตาหลุดลอก จนทำให้ตาบอดในที่สุด ดังนั้น ยิ่งผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานนานเท่าไหร่ โอกาสเกิดโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตาก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเท่านั้น


                ทำไมเป็นเบาหวานแล้วถึงตาบอดได้
      เมื่อผู้ป่วยเป็นเบาหวานนาน ๆ หลาย ๆ ปี เส้นเลือดฝอยทั่วร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของตาจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผนังของหลอดเลือดในจอประสาทตา ทำให้เกิดมีการผิดปกติ คือ มีเม็ดเลือด มีน้ำเหลือง และไขมัน ซึมออกมาในจอประสาทตา ทำให้เกิดจอประสาทตาบวม ขาดอ๊อกซิเจน และเมื่อเป็นเช่นนี้นาน ๆ เข้า จะทำให้เกิด : เส้นเลือดงอกขึ้นใหม่  เกิดเลือดออก  ทำให้น้ำวุ้นภายในลูกตาขุ่นมัว  จอประสาทตาลอก  และท้ายสุดทำให้ตาบอด เราเรียกโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นนี้ว่า "เบาหวานขึ้นตา"


             จะรู้ได้อย่างไรว่ามีเบาหวานขึ้นจอประสาทตา
    ถึงแม้ว่าโรคเบาหวานจะทำให้สูญเสียการมองเห็นลงอย่างมาก หรือตาบอด แต่ผู้ป่วยจะไม่มีอาการเจ็บปวด ในความเป็นจริงผู้ป่วยที่มีเบาหวานขึ้นจอประสาทตา จะไม่รู้สึกถึงความผิดปรกติในการมองเห็น จนกระทั่งเป็นรุนแรงมากแล้ว
ถ้าเบาหวานขึ้นจอประสาทตา และมีจุดกลางรับภาพจอประสาทตาบวม (Diabetic Macula edema) ร่วมด้วย ผู้ป่วยจะรู้สึกมองภาพไม่ชัด ตามัว หรือใช้สายตาระยะใกล้ เช่น อ่านหนังสือ ได้ลำบาก
       ถ้ามีเส้นเลือดงอกผิดปรกติ (Neovascularization) บนจอประสาทตาแตก มีเลือดออกในน้ำวุ้นตา (Vitreous hemorrhage) อาจมีอาการเหมือนมีเงาดำ ๆ บัง ลอยไปมา จนถึงมืด และมองอะไรไม่เห็นได้
ดังนั้นผู้ป่วยโรคเบาหวาน จึงควรพบจักษุแพทย์ทันที ถ้ามีการมองเห็นผิดปรกติไป เช่น
·         ตามัวลง 1-2 วัน และไม่ดีขึ้น
·         อาการตามัวไม่สัมพันธ์กับระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น
·         มีเงาดำลอยไปมา (floater)


        อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่ แม้มีเบาหวานขึ้นจอประสาทตามากแล้ว ก็ยังไม่แสดงการมองเห็นที่ผิดปรกติ จึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างที่สุด ที่ผู้ป่วยเบาหวานทุกราย จะต้องได้รับการขยายม่านตา ตรวจจอประสาทตาโดยจักษุแพทย์ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพราะว่า โรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตาสามารถรักษา และป้องกันไม่ให้ตาบอดได้ ถ้าได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที


            การรักษาโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตาได้อย่างไร
     พบว่า การรักษาโรคเบาหวาน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปรกติอย่างเคร่งครัด (Intensive management) สามารถชะลอ และเป็นไปได้ที่จะป้องกันการเกิด หรือการดำเนินของโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตาได้
      ถ้าจักษุแพทย์ตรวจพบว่า ผู้ป่วยมีโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตาแล้ว อาจจะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม โดยการฉีดสีเข้าทางเส้นเลือด และถ่ายภาพจอประสาทตาด้วยวิธี Fluorescein Angiography พื่อตรวจดูความผิดปรกติของเส้นเลือดที่จอประสาทตา และใช้ประกอบการรักษาด้วยการฉายแสงเลเซอร์ ต่อไป


       เพื่อป้องกันการเกิดอาการเบื้องต้นของโรคเบาหวาน Livitanutrics ขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์ LIFVEL
        Livitanutrics มีอาหารเสริมผู้ป่วยเบาหวาน คือ LIFVEL มีสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ลดสาเหตุโรคเบาหวานเพราะมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และโครเมียม พิโคลิเนตที่มีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานในปริมาณสูง


    ผลิตภัณฑ์ LIFVEL  ลิฟเวล    สามารถแก้ปัญหา โรคเบาหวานอย่างได้ผล
ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 แคปซูล ราคา 1,900 บาท
  
ดูข้อมูลที่   http://lifvelmir.blogspot.com
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ วีระชัย  ทองสา    โทร.084-6822645 , 085-0250423
ID Line : weerachaicoffee    
อีเมล์ : weerachai.coffee@hotmail.com